แบ่งปันเรื่องราว ประสบการณ์การใช้งานสินค้าและบริการ เสื้อผ้า บ้าน อาหาร ทัวร์
เว็บไซต์ที่จะมาแนะนำ แบ่งปัน เรื่องราวประสบการณ์ต่าง ๆ จากการใช้งานสินค้า และบริการต่าง ๆ
-
สำหรับอาหารที่เด็กๆชอบทานนั้น อาจจะมีหลายอย่างด้วยกันแต่สำหรับอย่างหนึ่งที่เด็กๆชอบทานเป็นอย่างมาก คือ ขนม ซึ่งในส่วนนี้คุณพ่อหรือคุณแม่ควรจะดูแลด้วย เพราะขนมส่วนใหญ่นั้นผลิตมาจากแป้ง น้ำตาล ซึ่งไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หากรับประทานไปจำนวนมากๆก็จะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายตามาด้วย ทั้งนี้วิธีการเลือกซื้อขนมที่มีประโยชน์สำหรับเด็กมีด้วยกัน คือ ขนมที่เด็กๆชอบทานเป็นของว่างจำพวกขนมกรุบกรอบ นั้นมีเครื่องปรุงที่มีส่วนผสมของโซเดียมในปริมาณมาก ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการทำงานของไตได้ และยังทำให้หิวน้ำบ่อยๆด้วย หากรับประมาณเข้าไปในปริมาณที่มากจะส่งผเสียต่อสุขภาพได้ นอกจากนี้ยังมีของกินเล่น อย่างเช่น ลูกอม ลูกกวาด ซึ่งมีปริมาณของน้ำตาล หากรับประทานเข้าไปมากๆก็ก็จะทำให้เป็นอัตรายต่อสุขภาพได้เช่นเดียวกัน ถึงแม้สิ่งเหล่านี้จะมีผลเสียต่อสุขภาพแต่ก็มีสารอาหารเช่นกันแต่มีคุณค่าทางโภชนาการที่น้อย ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรจะเลือกซื้อขนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการให้กับลูกๆจะดีกว่า
สำหรับขนมที่มีประโยชน์สำหรับเด็ก ประกอบไปด้วย
1.โยเกิร์ต เพราะมีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แลคโตบาซิลลัส ที่ช่วยดูแลลำไส้และทำน่าที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ และยังช่วยแก้อาการท้องอืดได้ด้วย
2.เมล็ดทานตะวัน เพราะเป็นโปรตีน มีฟอสฟอรัส และวิตามินอีสูงด้วย มีสารอาหารของกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวที่ช่วยในการบำรุงสายตาและยังมีประสิทธิภาพในการลดไขมันเส้นเลือดได้
3.ขนมจำพวกกล้วย เพราะกล้วยจะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ เช่น วิตามินเอ วิตามีนบี6และตามีนบี12 นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันท้องผูกอีกด้วย
4.อาหารจำพวกผลไม้อบแห้ง เพราะเป็นแหล่งไฟเบอร์ที่มีประโยชน์ช่วยในการขับถ่ายและยังอุดมไปด้วยวิตามีนต่างๆด้วย
5.ปลาเส้นต่างๆ เพราะปลาเป็นแหล่งโอเมก้า 3 ซึ่งมีประโยชน์และมีแคลเซียมที่ช่วยในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง อีกทั้งยังมีโปรตีนสูง ทั้งนี้การรับประทานปลาเส้นนั้น ควรจะรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากมีแป้งเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย -
กล้วย เป็นผลไม้ที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยกันมานานเพราะเมืองไทยเป็นแหล่งปลูกกล้วยหลายพันธุ์ เช่น กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม กล้วยไข่ กล้วยหักมุก กล้วยเล็บมือนาง กล้วยเป็นผลไม้ที่ปลูกง่าย หาง่าย กินง่าย สามารถนำมาประกอบเป็นอาหารคาวหวานได้ มีรสชาติหวานหอมอร่อย อีกทั้งมีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย ยิ่งเฉพาะในเรื่องโภชนาการแล้วต้องถือว่ากล้วยเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากทีเดียว จึงมีประโยชน์แก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะเด็กๆ กล้วยเป็นแหล่งของวิตามินบี 6 ซึ่งจำเป็นต่อร่างกาย ในกล้วยหอมจะพบมากรองจากจมูกข้าวสาลี รำข้าวสาลี ตับวัว และเนื้อวัว และมีวิตามินบี 6 มากกว่าในผักและผลไม้อื่นๆ
จากงานวิจัยพบว่าเด็กที่รับประทานกล้วยหอมในมื้อเช้าและมื้อกลางวันเป็นประจำทุกวัน จะมีผลการเรียนอยู่ในระดับดี อีกทั้งกล้วยยังเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานมาก เพราะมีน้ำตาล 3 ชนิด คือ กลูโคส ซูโคส และฟรุคโตส และมีคาร์โบไฮเดรตสูง เหมาะสำหรับเด็กๆในวัยที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโตที่ชอบเคลื่อนไหวร่างกาย ช่วยลดความเครียดได้ นอกจากนี้กล้วยยังมีโปรตีนชนิด try potophan ซึ่งช่วยทำให้เด็กรู้สึกอารมณ์ดี มีความสุข และสารโปแตสเซียมทำให้หัวใจทำงานได้ดี จึงส่งผลให้ออกซิเจนออกไปเลี้ยงสมองอย่างเพียงพอ ร่างกายจึงเกิดการผ่อนคลายมากขึ้น ทำให้ความเครียดลดลง
โดยร่างกายจะนำวิตามินบี 6 ไปใช้ซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างสารสื่อประสาทช่วยให้ตื่นตัว สดชื่น มีความสุข ควบคุมความอยากอาหาร และสร้างสารซีโรโทนินซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างสารสื่อประสาทส่งผลต่ออารมณ์ดี ความสุข ช่วยให้หลับ และมีผลต่อความจำ และยังมีเบต้าแคโรทีนที่ร่างกายจะเปลี่ยนให้เป็นวิตามินเอที่ส่งผลต่อการดูแลผิวพรรณ และเส้นใยอาหารที่ช่วยขัดล้างลำไส้ ป้องกันลำไส้จากเชื้อโรค ใยอาหารในกล้วยเป็นอาหารที่ดีของจุลินทรีย์ที่ดี ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดี เพราะลำไส้เปรียบเสมือนทหารหน้าด่านที่สำคัญในการกำจัดจุลินทรีย์หรือเชื้อก่อโรค แถมยังทำให้อุจจาระอ่อนนิ่ม ขับถ่ายได้สะดวกอีกด้วย
คุณสมบัติของกล้วย
1.กล้วยเป็นผลไม้ที่ให้แคลอรี่สูง เพราะมีแป้งน้ำตาลสูง และมีน้ำน้อยเมื่อเทียบกับผลไม้อื่นๆ
2.กล้วยมีน้ำตาลที่ถูกย่อยและดูดซึมง่าย จึงเป็นแหล่งกำเนิดของพลังงานที่ดี
3.เนื่องจากกล้วยมีประมาณโปรตีนต่ำ แต่ให้แคลอรี่สูงโดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณโปรตีน
4.กล้วยมีคุณสมบัติเป็นยาระบาย
5.กล้วยมีเกลือแร่ในปริมาณพอสมควร
6.กล้วยมีปฏิกริยาเป็นด่าง ซึ่งสามารถจะแก้ความเป็นกรดซึ่งเกิดจากอาหารที่เป็นกรด
7.กล้วยช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง
8.กล้วยเป็นแหล่งกำเนิดของไวตามินเอ และซี
9.ถ้าผสมกับน้ำนมจะทำให้เป็นอาหารที่สมดุลย์ยิ่งขึ้น
10.กล้วยสุกจะถูกย่อยอย่างสิ้นเชิง ถ้าบดหรือเคี้ยวให้ละเอียด แต่กล้วยสุกงอมจะถูกย่อยได้หมดโดยไม่ต้องบดหรือเคี้ยวให้ละเอียดนัก ไม่เป็นพิษต่อทารก ผู้อ่อนแอ หรือคนชรา -
ของเล่นนอกจากจะสร้างความเพลิดเพลินให้กับเด็กแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการในการเติบโต และเข้าใจในด้านต่างๆให้กับเด็ก การเลือกของเล่นให้เหมาะสมกับวัยของเด็ก ช่วยกระตุ้นให้เด็กมีพัฒนาการต่างๆ ฝึกฝนทักษะต่างๆได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นทางด้านผู้ปกครองจึงควรเลือกของเล่นที่เหมาะสมให้กับช่วงวัยเด็ก โดยของเล่นนั้นถูกจัดหมวดหมู่ หมวดใหญ่ๆ ดังนี้
1.ของเล่นจากธรรมชาติ การให้ลูกได้สัมผัสธรรมชาติ เช่น หิน ดิน ทราย ช่วยทำให้สมองของเด็กมีการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เพราะวัสดุจากธรรมชาติช่วยกระตุ้นประสาทด้านการสัมผัส ได้ดีกว่าของเล่นประเภทพลาสติก เพราะธรรมชาติช่วยให้เด็กเกิดการแยกแยะพื้นผิวของวัตถุ ว่ามีความหยาบ หรือมีความละเอียดอย่างไร นอกจากนี้ยังมีข้อดีด้านราคาที่ไม่แพง และไม่มีอันตรายต่อเด็ก
2.ของเล่นจากวัตถุสังเคราะห์ หรือพลาสติก โดยต้องพิจารณาความปลอดภัย ดังนี้
– ของเล่นในปัจจุบันมีการใช้สีที่เป็นอันตรายจากปรอท เมื่อผลิตไม่ดีสารเหล่านี้จะตกค้าง ทำให้เกิดอันตรายต่อเด็ก จึงต้องดูว่าสีที่ใช้ทาบนของเล่นมีความปลอดภัยหรือไม่
– ของเล่นพลาสติกถูกผลิตจากแม่พิมพ์ต่างๆ ก่อนนำมาประกอบรวมกัน จึงต้องดูลักษณะความแหลมคมของวัตถุก่อนการตัดสินใจซื้อ
– เหมาะสมกับวัยของเด็กหรือไม่ เช่น เด็กในวัย 0-6 เดือนยังไม่ต้องการเสริมสร้างทักษะอะไรมาก เพียงแต่หาวัตถุทรงต่างๆ ซึ่งเมื่อเด็กอายุมากขึ้น จึงค่อยเปลี่ยนให้มีความหลากหลายทีหลัง
3.ของเล่นที่เน้นเสริมทักษะความรู้ พ่อแม่ควรจะเลือกของเล่นที่ เหมาะสมกับฐานะทางครอบครัว เพราะลูกไม่จำเป็นต้องเล่นของเล่นราคาแพงๆ เสมอไปถึงจะทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี เช่น ตัวต่อ ตัวอักษรต่างๆ ของเล่นมีเสียง เป็นต้น ดังนั้นการเลือกซื้อควรพิจารณาให้ดี
ปัจจัยหลายอย่างส่งผลต่อการเลือกซื้อของเล่น เช่น ช่วงวัยของเด็ก ราคา เป็นต้น แต่สิ่งหนึ่งที่พ่อแม่หลายคนมักจะหลงลืมไปก็คือ พ่อแม่คือของเล่นชิ้นที่ดีที่สุดของลูก ซึ่งมีค่ามากกว่าการซื้อของเล่นที่มีราคาเสียอีก โดยเฉพาะการให้ความรัก ความอบอุ่นกับลูกให้มากๆ เชื่อได้เลยว่าเด็กจะมีพัฒนาการความคิดที่ดีแน่นอน -
ในช่วงขวบปีแรกอาหารที่สำคัญสำหรับทารกก็คือนม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 6 เดือนแรก ซึ่งถ้าแม่มีสุขภาพดีและสามารถให้นมแม่แก่ลูกได้อย่างเต็มที่ นมแม่เพียงอย่างเดียวจะพอเพียงต่อการเติบโตของลูก แต่หลังจากนั้นการให้นมแม่อย่างเดียวคงไม่พอ เพราะโดยธรรมชาติน้ำนมแม่จะเริ่มลดลงหลังจาก 6 เดือน ดังนั้นอาหารเสริมจะเข้ามามีส่วนสำคัญมากที่จะช่วยมิให้เด็กขาดสารอาหาร ตรงจุดนี้เราจะให้ความสำคัญเพราะในช่วง 2 ปีแรกของชีวิตเป็นช่วงที่สมองเด็กกำลังเติบโตเร็ว การขาดสารอาหารบางอย่าง เช่น การขาดธาตุเหล็กจะมีผลเสียต่อเด็กอย่างถาวรได้ในด้านพัฒนาการ อย่างไรก็ตามในกรณีที่เด็กไม่สามารถได้รับนมแม่อย่างเต็มที่ การให้สารอาหารแก่ทารกเพิ่มเติมจากนมแม่หรือนมผสม อาจให้ในช่วงอายุ 4-6 เดือนแรกเมื่อเด็กทารกเริ่มเจริญเติบโตมากขึ้น การทานนมแม่เพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ เราจึงควรให้ลูกได้ทานอาหารอย่างอื่นที่นอกเหนือจากนมแม่ร่วมด้วย เพื่อให้ลูกได้สารอาหารที่จำเป็นอย่างพอเพียง และยังเป็นการกระตุ้นการทำงานระบบการย่อยอาหารของลูกอีกด้วย การให้อาหารเสริมเร็วเกินไป คุณภาพไม่เหมาะสม ก็อาจทำให้เด็กเกิดโรคขาดสารอาหารได้ ในชนบทบางแห่งทารกจะได้รับอาหารเสริมซึ่งเป็นกล้วยและข้าวย้ำตั้งแต่อายุ 1 เดือน หรือน้อยกว่านั้น เนื่องจากคุณแม่เข้าใจผิดว่าจะทำให้เด็กอิ่มและหลับง่าย ผลเสียคือ ทารกได้รับนมแม่ไม่เพียงพอ แต่กลับได้รับอาหารที่ยังไม่สามารถย่อยได้ดีแทน และอาจทำให้ท้องอืด หรืออุจจาระร่วงได้ ยิ่งไปกว่านั้นการดูดนมแม่น้อยลง จะทำให้ปริมาณน้ำนมแม่ลดลงด้วย
การเลือกอาหารเสริมสำเร็จอย่างถูกวิธี
– เลือกให้เหมาะสมกับอายุของลูก ซึ่งที่ข้างกล่องหรือฉลากจะมีระบุไว้ว่าเหมาะกับเด็กวัยไหน
– อาหารเสริมสำเร็จรูปมีทั้งที่เป็นชนิดเดี่ยวกับชนิดผสมที่มีอาหารมากกว่า 1 ชนิด
– ดูข้อมูลสารอาหารและส่วนประกอบ เพื่อดูว่าส่วนผสมของอาหารนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง และมีสัดส่วนมากน้อยเพียงใด
– ดู วันผลิต/Manuf. ดูวันหมดอายุ/Exp
– พิจารณาลักษณะภายนอกของบรรจุภัณฑ์
– เริ่มให้อาหารเสริมได้เมื่อลูกอายุ 4 เดือนขึ้น
– เปลี่ยนรสชาติและชนิดของอาหารเสริมบ่อยๆ ลูกจะได้ไม่เบื่อและกินอาหารได้หลากหลายมากขึ้น
– ไม่ควรตักอาหารจากขวดให้ลูกรับประทาน แต่ให้แบ่งใส่ถ้วยในปริมาณพอกินต่อครั้ง
– อย่าให้ลูกกินอาหารเสริมสำเร็จรูปทุกมื้อ เพราะยังไงก็ไม่หลากหลายเท่าอาหารจากธรรมชาติฝีมือคุณแม่ -
การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวเจ้าตัวน้อยจึงต้องใส่ใจอย่างมาก เพราะผิวที่บอบบางต้องได้รับการดูแลอย่างดีรวมถึง การป้องกันสิ่งที่อาจจะทำอันตรายกับผิวลูกน้อยได้ ดังนี้สบู่เด็ก และครีมอาบน้ำสำหรับเด็ก คุณแม่ต้องใช้ที่ระบุว่าเหมาะกับผิวทารกที่มีกรดอ่อนๆ เท่านั้น เพราะผิวทารก ต้องไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมอื่นๆ ที่จะทำให้ผิวบอบบางเกิด การระคายเคือง ซึ่งหากเป็นช่วงฤดูหนาว ช่วงที่อากาศค่อนข้างเย็น ผิวทารกน้อยจะแห้งง่ายกว่าปกติ คุณแม่ที่ใช้สบู่ก้อนทำ ความสะอาดในการอาบน้ำให้ลูกน้อย ควรลดการใช้สบู่ให้น้อยลง เพื่อป้องกันผิวแห้ง เพราะก้อนสบู่ที่สัมผัสกับผิวเด็กโดยตรงจะทำ ให้ผิวทารกแห้งง่ายขึ้นกว่าปกติ ทั้งนี้หากใช้แล้วลูกน้อยมีผื่นขึ้น ให้ล้างฟองออกด้วยน้ำสะอาด แล้วหยุดใช้ และหากอาการยังไม่ดีขึ้นให้พาไปพบแพทย์โดยด่วน
ครีมบำรุงผิว เลือกให้เหมาะใช้ให้ถูกเวลา ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวทารกได้ดี คือ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ในรูปแบบต่างๆ อาทิ เช่น โลชั่นออยล์ ครีม หรือปิโตเลียมเจล เป็นต้น หากลูกน้อยของคุณมีผิวแห้ง คุณแม่ควรเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์แบบเข้มข้นใช้หลังอาบน้ำไม่เกิน 3-5 นาที เพราะจะช่วยให้ซึมซับได้ดี ส่วนโลชั่นเหมาะกับสภาพผิวปกติทั่วไป ส่วนมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ปิโตเลียมเจล เหมาะสำหรับการใช้เฉพาะจุด เช่น มือ ขา ข้อศอก บริเวณก้นของลูกน้อย ที่จะช่วยป้องกันการเปียกชื้นได้ดี ทั้งนี้หากอากาศร้อนชื้น คุณแม่ไม่ควรใช้ออยล์ในการทาผิวให้ลูกน้อย เพราะออยล์จะปิดรูขุมขนบนผิวหนังทำ ให้เหงื่อไม่สามารถระบายออกมาได้ จนก่อให้เกิดผื่นคัน เหนอะหนะ แน่นอนว่าลูกน้อยจะรู้สึกรำคาญอย่างมาก แชมพูสระผมปราศจากสารระคายเคือง การเลือกให้เหมาะกับทารกแรกเกิด เบื้องต้นแนะนำ ว่าคุณแม่อาจจะยังไม่จำ เป็นต้องใช้ก็ได้ค่ะ ใช้เพียงน้ำต้มสุก (ที่อุณหภูมิเย็นปกติแล้ว) ทำความสะอาดก็พอ แต่หากคุณแม่ยังต้องการใช้แชมพูกับลูกน้อย ควรเลือกแชมพูที่มีความอ่อนโยน ปราศจากสารเคมี เช่น น้ำหอม สารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับหนังศีรษะของลูกน้อยจะดีที่สุด
-
ปัจจัยในด้านการพัฒนาการของเด็กนับได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะมันแทบจะเป็นปัจจัยหลักในการที่ทำให้ลูกของเราสามารถที่จะดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขและปลอดภัยได้ในสังคมอนาคต ที่นับวันเริ่มจะที่ต้องพึ่งตัวเองมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นพัฒนาการที่ดีของมนุษย์จึงควรเริ่มต้นจากเด็ก ไปจนเติบใหญ่
แต่เมื่อลองมองกลับมาแล้วเด็ก ๆ ในสมัยนี้กลับมีพัฒนาการที่ค่อนข้างจะแย่ลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากคุณพ่อและคุณแม่ยังคงให้ความสำคัญในด้านนี้ไม่มากเท่าไหร่นัก โดยสาเหตุอันอาจจะมาจากหลายประการด้วยกันเช่น การเลือกเลี้ยงลูกด้วยให้ดูทีวีอยู่ตลอดเวลา หรือการเลือกใช้สื่อในด้านผิดสอนลูกอยู่เสมอ ซึ่งในตัวเด็กนั้นมักจะจำและปฏิบัติตามทำให้เมื่อโตขึ้นพฤติกรรมต่าง ๆ ก็จะถูกหลอหลวมกลายเป็นนิสัย
ดังนั้นเพื่อพัฒนาการของลูกที่ดีในอนาคตคุณพ่อและคุณแม่ควรที่จะมีหลักการเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ ให้กับลูกเพื่อเป็นตัวช่วยและส่งเสริมให้เจ้าตัวน้อยมีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตามคุณพ่อ คุณแม่และคนอื่น ๆ ในครอบครัวควรศึกษาให้ละเอียดว่าผลิตภัณฑ์ชนิดนั้นเหมาะสมกับวัยของเจ้าตัวน้อยหรือไม่
เครื่องนอนลูกถือได้ว่ามีความจำเป็นมากเนื่องจากหากเป็นเด็กแรกเกิดหรืออยู่ในช่วงตั้งไข่ที่จะต้องเริ่มต้นชีวิต เพราะเด็กเปรียบเสมือนผ้าสีขาวที่จะสามารถรับได้ทุกสิ่งที่เข้ามากระทบ ดังนั้นคุณแม่ก็ควรเลือกซื้อเครื่องนอนที่ค่อนข้างสะอาดให้กับลูก ๆ เพื่อป้องกันโรคร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟูก ที่นอน หมอนและมุ้งเพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งปกป้องหลักที่จะคอยป้องกันไม่ให้สัตว์หรือแมลงร้ายได้เข้าถึง
การเลือกซื้อเครื่องแต่งกายให้กับเด็กตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบไปจนถึงสามารถเดินได้หรือพูดได้นั้น ใช่ว่าจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญเพราะเด็ก ๆ แม้ว่าจะมีพัฒนาการที่ดีแต่ก็ต้องห่างไกลจากเชื้อโรคที่อาจจะทำร้ายพวกเขาได้ในภายหลัง ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรเลือกเสื้อผ้าหรือเครื่องแต่งกายที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพเพื่อป้องกันโรคต่าง ๆ
-
นมแม่ เป็นนมที่ดีที่สุดสำหรับเลี้ยงทารก แต่ในบางกรณีคุณแม่อาจมีความจำเป็นจริงๆที่ไม่สามารถจะเลี้ยงลูกด้วยนมตนเองได้ เช่น ต้องไปทำงานนอกบ้านและไม่สะดวกในการบีบเก็บและนำส่งนมแม่จากที่ทำงานกลับบ้าน คุณแม่ไปต่างจังหวัด หรือเจ็บป่วยรุนแรงหรือเป็นโรคบางชนิดที่ทำให้ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมตนเองได้ จึงจำเป็นต้องใช้นมผงเลี้ยงลูกซึ่งอาจจะเพียงบางมื้อชั่วคราว หรือนานเท่าที่จำเป็น ทำให้คุณแม่หลายคนกังวลว่าจะเลือกนมผงเลี้ยงลูกอย่างไรดี เนื่องจากนมผสมทุกวันนี้ก็มีความก็พยายามดัดแปลงให้มีส่วนประกอบเหมือนนมแม่ เช่น นมวัว เป็นนมที่มีโปรตีนมากโดยใช้วิธีลดโปรตีนลงให้เหมือนนมแม่ เพราะในเด็กเล็กเขาไม่ต้องการโปรตีนมาก เพราะถ้าได้มากเกินไป ไตจะทำงานมากขึ้น หรือต้องปรับปรุงคาร์โบไฮเดรตในส่วนประกอบบางอย่างให้คล้ายนมแม่ ย่อยง่าย ไม่จับตัวเป็นก้อน หรือพยายามเติมสารอื่นๆที่มีประโยชน์ต่อเด็กลงไป
นมผงสำหรับทารกที่ดัดแปลงในปัจจุบัน
ได้มีการเติมน้ำตาลเป็นส่วนผสม เพื่อทดแทนความหวานในน้ำนมให้ใกล้เคียงกับน้ำนมแม่ ซึ่งปริมาณน้ำตาลที่ผสมนั้นมีมากเกินความจำเป็นสำหรับที่ทารกจะได้รับ และในน้ำตาลเหล่านี้นี่เองที่จะเป็นสาเหตุให้เด็กเกิดฟันผุ และติดรสชาติหวาน อาจจะทำให้เป็นโรคอ้วนในอนาคตได้ ซึ่งคุณแม่ควรจะเลือกนมจืดให้กับทารก เพื่อป้องกันโรคต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยก่อนอื่นนั้นคุณแม่จะต้องรู้ก่อนว่าสุขภาพของลูกน้อยเป็นอย่างไร เพราะเด็กแต่ละคนนั้นสุขภาพต่างกัน บางคนคลอดก่อนกำหนด เด็กบางคนแพ้นมวัว เด็กบางคนไม่ค่อยแข็งแรง
วิธีการเลือกซื้อนม
ให้ใช้หลักการอ่านฉลาก สังเกตภาชนะบรรจุ ดูการเก็บรักษา และตรวจตราเนื้ออาหาร เพราะการอ่านฉลากให้ถ้วนถี่ว่าเป็นอาหารที่ผ่านการตรวจสอบดูแลจาก อย.หรือไม่ โดยดูจากเครื่องหมาย อย. ที่มีเลขสารบบอาหาร 13 หลักอยู่ มีชื่อและที่อยู่ผู้ผลิต ดูวันหมดอายุ หรือวันที่ควรบริโภคก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าอาหารนั้นยังมีคุณภาพดีอยู่ สังเกตภาชนะบรรจุว่าสะอาด ไม่มีรอยฉีกขาด รั่วซึมหรือบวม ซึ่งไม่ได้หมายความว่าผู้ผลิตใจดีบรรจุให้มาก แต่เกิดจากเชื้อจุลินทรีย์เปลี่ยนอาหารในนมเป็นแก๊ส และดูการเก็บรักษาให้ดูว่ามีการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสมหรือไม่ ถ้าเป็นนมพาสเจอร์ไรส์ก็ควรเก็บในตู้เย็น ที่ควบคุมอุณหภูมิไม่เกิน 5 องศาเซลเซียส ส่วนกรณ๊เป็นนม ยู เอช ที ต้องไม่วางซ้อนกันจนสูงเกินไป ไม่วางตากแดด หรือใกล้แหล่งความร้อนอื่นๆและบริเวณที่เก็บต้องสะอาด ป้องกันสัตว์กัดแทะได้ด้วย และเมื่อซื้อนมมาแล้วก่อนที่จะดื่มให้ตรวจตราเนื้ออาหาร ดูว่ามีลักษณะผิดแปลกไปหรือไม่ เช่น จับเป็นตะกอนเป็นยางเหนียว สีเปลี่ยนไปหรือมีกลิ่นเหม็น
-
รองเท้าเป็นปัจจัยที่สำคัญในการดำรงชีวิต
เพราะนอกจากช่วยป้องกันเท้าในการบาดเจ็บ ความสกปรก และเชื้อโรคต่างๆแล้ว ปัจจุบันรองเท้ายังมีข้อดี ช่วยเสริมสร้างบุคลิกที่ดีแก่ผู้สวมใส่ด้วย การเลือกรองเท้าที่ดีจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการที่สำคัญของลูกน้อยได้ เพราะจะทำให้การเดินมีความมั่นคง ปลอดภัย แถมยังช่วยดูแลปกป้องอวัยวะสำคัญอย่างเท้า นอกจากนี้การเลือกรองเท้าคู่แรกอาจเลือกลาย รูปแบบ และสีที่เด็กๆโปรดปรานจะได้ทำให้ลูกอยากสวมใส่รองเท้า และการเดินของหนูน้อยก็จะเป็นก้าวย่างแห่งความสุขด้วย โดยส่วนใหญ่หนูน้อยจะเริ่มหัดเดินในช่วงอายุประมาณ 10-12 เดือน ซึ่งเมื่อแรกเริ่มหัดเดิน ลูกน้อยอาจจะยังไม่ต้องรีบใช้รองเท้า เพราะการเดินด้วยเท้าเปล่าบนพื้นซึ่งคุณแม่ได้จัดเตรียมไว้ จะช่วยให้ลูกเคลื่อนไหวอย่างอิสระ มีการฝึกทรงตัวที่ดีขึ้น และยังได้สัมผัสกับพื้นผิวที่แตกต่างกันไป เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับลูกน้อยได้อีกด้วย
แต่เมื่อลูกน้อยอายุขวบปีขึ้นไปการเดินจะทำได้คล่องแคล่วขึ้น ประกอบกับเป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็น ช่างสงสัย ทำให้บางครั้งลูกรักอาจเดินสำรวจไปมาจนคุณแม่คอยดูไม่ทัน ทำให้คุณแม่เกิดความกังวลได้ว่าพื้นผิวที่เท้าของลูกสัมผัสนั้นจะสะอาดเพียงพอไหม ดังนั้นรองเท้าเด็กจึงกลายมาเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยปกป้องเท้าคู่น้อยๆให้กับหนูน้อยวัยกำลังซน นอกจากเสื้อผ้าเด็กแล้วสิ่งของที่จำเป็นสำหรับเด็กทุกวัยคือรองเท้า ซึ่งการเลือกรองเท้าให้เด็กเป็นเรื่องที่พ่อแม่ทุกคนควรใส่ใจไม่แพ้เรื่องอื่น เพราะรองเท้ามีผลโดยตรงต่อการยืนและเดิน ซึ่งเป็นเรื่องของพัฒนาการที่ดีของเด็ก ดังนั้นหากจะเลือกรองเท้าสำหรับลูกซักคู่ พ่อแม่ก็ควรเลือกรองเท้าที่เหมาะสม
รองเท้าเด็กมีค่อนข้างมากในตลาด
ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าลายการ์ตูน รองเท้าแฟชั่น รองเท้าติดล้อ ทั้งนี้เรื่องรูปลักษณ์ เป็นความชอบส่วนบุคคล สำหรับการเลือกรองเท้าเด็กนั้น หัวรองเท้าควรยาวกว่านิ้วเท้าของเด็กอย่างน้อยครึ่งนิ้ว บริเวณส่วนหัวของรองเท้าควรมีพื้นที่เหลือพอที่จะให้นิ้วเท้าขยับได้ และเผื่อไว้สำหรับเท้าที่จะเจริญเติบโตขึ้นอีก พื้นรองเท้าควรมีความยืดหยุ่นดี น้ำหนักเบา และไม่ลื่น พื้นรองเท้าควรจะเรียบกว้างและแข็งแรง ซึ่งเมื่อเด็กสวมรองเท้า และเขย่ง รองเท้าจะโค้งตามรูปเท้า พื้นรองเท้าด้านใน ควรบางแต่นุ่มนวล และยืดหยุ่นได้ดีไม่แข็งกระด้าง
สายคาดควรเป็นแบบที่สามารถเลื่อนเข้าเลื่อนออกให้กระชับพอดีกับขนาดเท้าได้ง่าย รองเท้าหัวป้านจะช่วยให้นิ้วเท้าไม่ถูกบีบ และจะไม่เจ็บเท้าเมื่อต้องใส่รองเท้าเป็นเวลานาน คุณภาพของฝีมือในการตัดเย็บจะต้องประณีต ตะเข็บต้องไม่หนา และไม่กดรัดนิ้วเท้า ควรหลีกเลี่ยงรองเท้าที่เป็นพลาสติก เพราะพลาสติกจะไม่ปรับรูปร่างให้เข้ากับเท้า และควรเปลี่ยนรองเท้าคู่ใหม่ให้กับลูกเมื่อเห็นว่ารองเท้านั้นคับเกินไป โดยอาจสังเกตจากขณะยืนสวมรองเท้า นิ้วเท้าแตะโดนด้านในของหัวรองเท้า มีรอยกดของรองเท้า ทำให้เท้าบวมหรือแดงเป็นรอย
-
คุณพ่อคุณแม่โดยเฉพาะคนที่มีลูกคนแรกอาจไม่ทราบว่าผิวหนังของเด็กมีความแตกต่างจากผิวหนังผู้ใหญ่ในหลายๆ ด้าน สารต่างๆ สามารถซึมผ่านผิวหนังเด็กได้จำนวนมากทำให้เกิดความระคายเคืองได้ง่ายและผิวหนังเด็กยังติดเชื้อต่างๆ ได้ง่ายกว่าผิวหนังผู้ใหญ่ ทำให้ส่วนประกอบหลายชนิดของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่สามารถใช้ได้กับผิวหนังของเด็ก คุณพ่อคุณแม่มีหน้าที่ปกป้องผิวหนังที่บอบบางของลูกจากภยันตรายต่างๆ จึงควรมีความรู้ที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีวางขายมากมายได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหนังเด็กควรมีความอ่อนโยนต่อผิวหนัง ไม่ควรมีน้ำหอม สีย้อมหรือแอลกอฮอลล์เป็นส่วนประกอบ เด็กชอบขยี้ตาตัวเองอาจทำให้เกิดการระคายเคืองขึ้นได้ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ alpha hydroxy acids จะทำให้ผิวเด็กแสบ แดง เหมือนโดนน้ำร้อนลวกเป็นอันตรายได้โดยเฉพาะถ้าใช้กับบริเวณที่มีรอยแตกของผิวหนัง ยาหม่องหรือขี้ผึ้งต่างๆ ที่ใช้ทาแก้ผื่นคันก็อาจเป็นอันตรายต่อผิวเด็กที่บอบบางได้เพราะมักมีส่วนประกอบที่ทำให้เกิดการระคายเคือง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหนัง
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหนังอาจอยู่ในรูปของสบู่ก้อนหรือสบู่เหลว การอาบน้ำด้วยน้ำเปล่าอาจไม่สามารถทำความสะอาดผิวหนังเด็กได้ดีเพียงพอ ผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ไม่ควรมีฟอง ไม่มีความเป็นด่างมาก ไม่มียาฆ่าเชื้อโรค (เช่น Trichosan) ไม่มีสีและไม่มีน้ำหอม ฟองจะทำให้ไขมันตามธรรมชาติที่มีอยู่ที่ผิวหนังลดน้อยลงเป็นอันตรายต่อผิวหนังได้ ความเป็นด่างและยาฆ่าเชื้อโรคทำให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวหนัง สีและกลิ่นทำให้เกิดผื่นแพ้ได้ โดยทั่วไปสบู่ก้อนมักก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวหนังมากกว่าสบู่เหลว อย่างไรก็ตามในการอาบน้ำแต่ละครั้งไม่ควรใช้สบู่มากเกินไป ไม่ควรถูสบู่ทิ้งไว้บนผิวหนังเป็นเวลานาน และหลังการอาบน้ำทุกครั้งควรล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้งจนไม่มีสารเหลือตกค้างบนผิวหนัง แชมพูที่ดีควรมีความเป็นกรดด่างใกล้เคียงกับน้ำตาเพื่อไม่ให้เกิดความระคายเคืองต่อตา แชมพูควรมีความหนืดเพียงพอที่จะไม่ไหลลงมาโดนตาของเด็ก แชมพูเด็กส่วนใหญ่มักผสมสีและน้ำหอมซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ แชมพูบางชนิดอาจมีส่วนผสมของตัวยาที่ใช้ในการรักษาโรคที่หนังศีรษะ เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่จึงควรใส่แชมพูให้ทั่วหนังศีรษะและใช้ผ้าขนหนูหมักผมทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาทีก่อนล้างออก
-
การเลือกของใช้สำหรับเด็กอย่างตั้งใจ
ให้ความใส่ใจในทุกรายละเอียดก็คือเรื่องของความสะอาดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำที่ต้องมีทั้งสบู่ แชมพู ซึ่งต้องมีความอ่อนโยนเป็นพิเศษ และเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กโดยเฉพาะ นอกจากนี้ก็ยังมีความสะอาดของเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้อื่นๆที่เกี่ยวข้องอย่างขวดน้ำที่ต้องให้น้ำยาทำความสะอาดโดยเฉพาะเช่นกัน และที่ลืมไปไม่ได้เลยก็คือเรื่องของสุขอนามัยด้านการขับถ่าย ไม่ว่าจะเป็นผ้าอ้อมสำเร็จรูป ทิชชู่เปียก และสำลี ซึ่งให้สัมผัสที่อ่อนนุ่มกว่ากระดาษชำระทั่วๆไป เพราะผิวของเด็กนั้นยังบอบบางมากและไวต่อการระคายเคืองต่างๆ
ของใช้สําหรับเด็กเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกันสำหรับทารกที่กำลังจะเกิดมาลืมตาดูโลกซึ่งเชื่อว่าคุณแม่หลาย ๆคนคงจะไม่อยากจะฉุกละหุกวุ่นวายหลังคลอดลูกแล้ว ฉะนั้นแล้วเราก็ควรจะมีการเตรียมของใช้สําหรับทารกแรกเกิด เอาไว้ด้วย ซึ่งเรื่องของใช้สําหรับทารกแรกเกิดนั้นคุณแม่อาจจะจัดการเองหรือให้คุณพ่อเป็นคนจัดการก็ได้แต่ถึงยังไรก็ควรจะมีการปรึกษาหารือและการเตรียมของใช้สําหรับทารกแรกเกิดเอาไว้ เพราะเมื่อหลังจากที่คุณแม่ให้กำเนิดบุตรและกลับมาบ้านก็จะได้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ขึ้นฉะนั้นแล้วก็อย่าลืมที่จะทำการเตรียมของใช้สําหรับทารกแรกเกิดเอาไว้ด้วย
การเลือกซื้อของเล่น เครื่องนอนหรือเครื่องแต่งกายล้วนเป็นเพียงแค่ตัวช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการของเจ้าตัวน้อยเท่านั้น หากแต่ว่าพัฒนาจริงๆแล้วมักจะเกิดและได้รับผลมาจากคนในครอบครัว สิ่งแวดล้อมและสังคมใกล้เคียง และเพื่อที่จะไม่ให้ลูกมีพัฒนาการที่เลวร้ายลงหรือไม่มีการพัฒนาการต่างๆอย่างต่อเนื่อง คุณพ่อและคุณแม่ควรที่จะศึกษาข้อมูลด้านนี้ให้ได้อย่างครบถ้วนและหมั่นสร้างสัมพันธ์อันดีต่อกัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในด้านการเสริมสร้างพัฒนาการของลูกเพราะทุกอย่างที่ลูกเรียนรู้ และพัฒนามักจะได้รับการถ่ายทอดมาจากพฤติกรรมต่างๆของคนในครอบครัว หากพ่อรุนแรง แม่รุนแรงลูกก็อาจจะเกิดอาการก้าวร้าวตามมาได้ในอนาคต
การเลือกเสื้อ กางเกง และผ้าอ้อมสำหรับเด็ก
– ผ้าฝ้ายธรรมชาติ เป็นวัตถุดิบในการผลิตเสื้อผ้าเด็กที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเนื้อผ้าให้ความอบอุ่นได้ดี มีความคงทนและเป็นผ้าเนื้อนิ่ม ไม่ทำให้เกิดอาการระคายคันจนผิวเกิดผื่น
– ควรเลือกเสื้อผ้าที่ใส่สบาย สีไม่ตก ผิวสัมผัสของเนื้อผ้าเรียบเนียน ไม่มีส่วนที่จะทำให้ลูกระคายผิวได้
– ซื้อเสื้อผ้าที่ผลิตใหม่ ป้องกันเชื้อโรค เช่น เชื้อราสะสมอยู่ ยากต่อการทำลาย
– เลือกเสื้อที่เย็บตะเข็บเรียบร้อย เพื่อไม่ให้ตะเข็บเสื้อลุ่ยออกมาระคายผิว
– เสื้อผ้าสำหรับเด็กเล็กควรสำรวจกระดุมและเชือกผูกไม่ให้เป็นอันตรายกับเด็ก
– หากอากาศเย็น เลือกถุงเท้าที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ
– ถุงเท้าไม่ควรรัดเท้าเกินไป เลือกขนาดที่พอดีเท้า ไม่ใหญ่เกินเท้า ไม่ยืด ไม่ย้วย
– สำหรับผ้าอ้อมสำเร็จรูปนั้น ควรเลือกใช้ให้เหมาะกับอายุลูกและน้ำหนักตัว โดยเลือกตามตารางน้ำหนักของผ้าอ้อม ถ้าซื้อขนาดใหญ่มาก ขอบขาผ้าอ้อมจะใหญ่ตาม เวลาเคลื่อนไหวจะเสียดสีที่ขาลูก ทำให้ไม่สบายตัวได้ -
เกมทุกเกมมีกติกาข้อบังคับในการเล่น
ต้องคำนึงถึงช่วงความสนใจของเด็กโดยเหมาะสมด้วย มิฉะนั้นการจัดเกมการศึกษาจะไม่ประสบความสำเร็จ ข้อควรคำนึงถึงเกี่ยวกับการนำมาใช้จัดประสบการณ์ให้แก่เด็ก คือ อายุ และวุฒิภาวะของเด็ก เด็กจะชอบเกมเคลื่อนไหว ความสามารถของเด็กแต่ละวัยไม่เหมือนกัน ระดับความสามารถและความพอใจของเด็ก ดังนั้นเกมอาจจะปรับให้เหมาะสมกับความต้องการและสภาพแวดล้อมได้ลักษณะของเกมการศึกษาที่นำมาใช้ประกอบการเรียนนั้น มีความยากง่ายแตกต่างกันในเรื่องเนื้อหาและลักษณะของเกมแต่ละประเภท
การเลือกใช้สื่อกับลูกน้อยอย่างถูกวิธี
– รู้ทันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสื่อประเภทใด ถ้าจะให้ดีคุณพ่อคุณแม่ควรหาข้อมูลเพิ่มเติมและศึกษาเนื้อเรื่อง สารประโยชน์ของสื่อแต่ละชนิดอย่างถี่ถ้วน
– กำหนดเวลาดูและใช้งาน สื่อ Edutainment ที่เป็นประเภทสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ หรืออินเตอร์เน็ต คุณพ่อคุณแม่ควรกำหนดให้ลูกวันละครึ่งชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว
– อยู่กับลูกทุกครั้งที่ดู การที่คุณพ่อคุณแม่อยู่กับลูกด้วยทุกครั้ง ลูกจะได้รับคำตอบและคำอธิบายในคำถามที่สงสัยอยู่ระหว่างการดู ซึ่งจะช่วยฝึกวิธีคิดและวิเคราะห์ข้อมูล
– การใช้สื่อ Edutainment เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือการเรียนรู้ที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านต่างๆสำหรับลูกน้อย ทั้งยังเป็นช่วงเวลาดีๆของความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกเด็กวัย 6-9 ปี จะมีการเข้าสังคมมากขึ้น
แต่ยังมีบางช่วงที่อยากอยู่ลำพัง ของเล่นในวัยนี้จึงควรมีลักษณะเสริมทักษะดังกล่าว เช่น เกมการแข่งขันกีฬาที่ย่อขนาดลงมาเล่นบนโต๊ะเครื่องมืองานช่างหุ่นจำลองที่มีอากัปกิริยาต่างๆ อุปกรณ์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ รถบังคับ เป็นต้น วัยนี้เป็นวัยกระฉับกระเฉงใช้ร่างกายได้คล่องแคล่วเหมาะแก่การเล่น ถีบจักรยาน เสก๊ตเลื่อน อุปกรณ์กีฬาต่างๆ ที่เหมาะสม แม้เด็กจะสนุกกับการเล่นเป็นกลุ่ม แต่เป็นวัยที่รู้จักเล่นคนเดียวได้ อุปกรณ์ศิลปะ ชุดแต่งกายตัวละคร ตุ๊กตา ข้าวของเครื่องใช้ขนาดเล็กจะช่วยพัฒนาจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี เกมที่ดีมีคุณภาพจะช่วยพัฒนาทักษะการประสานงาน การวางแผน พลิกแพลง และความสัมพันธ์ของสายตามือและความคิด แต่ต้องอาศัยความรอบรอบของผู้ใหญ่ในการเลือกวีดีโอเกมที่ไม่มีพิษภัย และไม่มีความรุ่นแรงจนเกินไป
เด็กวัย 9-12 ปี เริ่มต้นที่จะพัฒนาทักษะเฉพาะตัวและความสนใจหลักๆของชีวิตในช่วงวัยนี้ เขาจะให้ความสนใจในงานอดิเรกนานาประเภทมากขึ้น สนใจการเล่นที่ซับซ้อน เช่น งานไม้ งานก่อสร้าง อุปกรณ์มายากล การต่อภาพหรือรูปทรงที่ซับซ้อนมากขึ้น เกมปริศนาและอุปกรณ์การทดลองทางวิทยาศาสตร์ วัยนี้ต้องการการยอมรับจากเพื่อนๆมักจะชอบเล่นเป็นทีมในกีฬาหลายๆประเภท ทักษะทางสังคมและสติปัญญาจะถูกขัดเกลาให้เฉียบแหลมขึ้นด้วยเกมที่ต้องใช้ความคิดและการตัดสินใจ
-
ของใช้เด็ก และของเล่นเด็ก ปัจจุบันมีความหลากหลายให้เลือกมากมายถึงแม้อัตราการแต่งงานของคนในปัจจุบันจะลดลงหรือเฉลี่ยแล้วคนหนุ่มสาวจะแต่งงานเมื่อมีอายุมากขึ้น และการมีลูกโดยส่วนใหญ่ก็จะมีเพียง 1-2 คนเท่านั้นเนื่องจากสังคม และเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันมีผลกระทบต่อการเลี้ยงดูลูกเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามของเล่นเด็ก และของใช้เด็กก็ยังมีการผลิตและมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะของเล่นเด็ก จะมีของเล่นที่ไว้ทำหรับเสริมพัฒนาการเด็ก ของเล่นเด็กก็จะมีการแบ่งตามอายุของเด็กเพื่อให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็ก ตลาดของใช้เด็ก และของเล่นเด็กถือว่าเป็นตลาดที่มีเงินหมุนเวียนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว หากตัวแทนจำหน่ายท่านไหนสนใจก็สามารถ เข้าไปเป็นตัวแทนจำหน่ายได้โดยการสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายของเล่นเด็ก และของใช้เด็ก กำไรต่อชิ้นถือว่าค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เพราะเป็นสินค้าที่ต้องผลิตด้วยความละเอียดอ่อนสูง และวัสดุต่างๆ ก็ต้องผ่านการรับรองจากองค์กร หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลตรวจสอบ ถ้าหากใช้วัสดุและการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานก็อาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยกับเด็กได้
ตัวแทนจำหน่ายของเล่นเด็กก็มีเยอะเหมือนกัน ในตลาดออนไลน์โดยสังเกตตามการจัดตั้งกลุ่มต่างๆ ในโลกโซเชียลมีเดียอย่างเฟสบุ๊ก โดยจะมีการโพสสินค้าขายผ่านเฟสบุ๊กหรือแฟนเพจก็ตามล้วนสามารถทำยอดขายได้ทั้งสิ้น และไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงลูกค้าอีกด้วย ตัวแทนจำหน่ายสินค้าเด็กอีกส่วนหนึ่งก็ไปโพสตามเว็บบอร์ด และเว็บประกาศขายสินค้า อย่างพันทพธ์มาเก็ต ดีลฟิช ก็สามารถขายได้เช่นกัน โดยข้อความโพสเหล่านั้นจะถูกกูเกิลเก็บไปไว้ในดัชนีการจัดลำดับ เมื่อมีการจัดลำดับคำว่าของเล่นเด็ก หรือ ของใช้เด็ก เมื่อมีคนค้นคำว่า ของเล่นเด็ก หรือ ของใช้เด็กในกูเกิลไทยแลนด์ก็จะพบกับเว็บประกาศเหล่านั้นได้เช่นกัน โดยเฉพาะเฟสบุ๊ก ตอนนี้กูเกิลชอบมากและมักจะให้เฟสบุ๊กครองตำแหน่งต้นๆเสมอราวกับว่าเป็นพี่น้องกันยังไงยังงั้นเลย ทั้งๆที่แต่ก่อนเป็นเหมือนคู่แข่งกัดฟัดเหวี่ยงกัน แทบจะถล่มกันได้ทุกเมื่อ
มีคนมักถามว่าของเล่นเด็กมีประโยชน์ไหม คำตอบคือมีแน่น่อน อะไรที่มีประโยชน์คนก็ย่อมต้องการใช่ไหม ดังนั้นตัวแทนจำหน่ายก็ควรพิจารณาสินค้ากลุ่มสินค้าเด็กด้วยก็ดีเหมือนกันเพราะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ควรละเลยแม้แต่น้อยเลยทีเดียว แล้วของใช้เด็กละ อันนี้ยิ่งจำเป็นยกตัวอย่าง เช่น รถคันไถหัดเดิน หรือ รถสำหรับไว้ฝึกเดินให้เด็ก จะมีประโยชน์ต่อเด็กในการฝึกเดินและเสริมพัฒนาการได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ถ้าจะให้ใช้แบบเหมือนสมัยก่อน ก็คงไม่ไหว เช่น ที่หัดเดินในสมัยก่อนนั้นพ่อแม่ปู่ย่าตายายมักจะหาไม้ไผ่มาทำให้ ในยุคนี้คงไม่มีแล้ว และหาไม้ไผ่ได้ค่อนข้างลำบากเพราะล้วนแต่เป็นสังคมเมืองทั้งสิ้น
ใครที่เคยเล่นมาก่อน หรือที่ยังทันเห็นอยู่ก็จะสัมผัสถึงความฝืดได้ไม่มากก็น้อย เดินๆไปบางทีก็เวียนหัวหมุนอยู่กลับที่เป็นวงกลม ทำให้เด็กล้มลุกคลุกคล้านครั้งแล้วครั้งเล่า ของใช้เด็กสมัยก่อนกับสมัยปัจจุบันจึงแตกต่างกันเป็นอย่างมากถึงแม้ว่า ราคาจะต่างกันก็ตาม เพราะสมัยนี้จะให้ทำแบบสมัยก่อนก็คงไม่ทันการเสียแล้ว
ดังนั้นของเล่นเด็กสมัยก่อนกับสมัยนี้จึงไม่เหมือนกัน ตัวแทนควรคำนึงถึงความสะดวกด้วยว่าสินค้าสะดวกต่อเด็กไหม เมื่อผู้เป็นพ่อแม่มาเลือกซื้อก็ควรให้คำแนะนำโดยเฉพาะพ่อแม่มือใหม่ ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกจึงจำเป็นมากสำหรับคำแนะนำดีๆ จากตัวแทนจำหน่ายสินค้าออนไลน์สำหรับเด็ก และทารก
-
การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวเจ้าตัวน้อยจึงต้องใส่ใจอย่างมาก เพราะผิวที่บอบบางต้องได้รับการดูแลอย่างดีรวมถึง การป้องกันสิ่งที่อาจจะทำอันตรายกับผิวลูกน้อยได้ ดังนี้
• สบู่เด็ก และครีมอาบน้ำสำหรับเด็ก คุณแม่ต้องใช้ที่ระบุว่าเหมาะกับผิวทารกที่มีกรดอ่อนๆ เท่านั้น เพราะผิวทารก ต้องไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมอื่นๆ ที่จะทำให้ผิวบอบบางเกิด การระคายเคือง ซึ่งหากเป็นช่วงฤดูหนาว ช่วงที่อากาศค่อนข้างเย็น ผิวทารกน้อยจะแห้งง่ายกว่าปกติ คุณแม่ที่ใช้สบู่ก้อนทำ ความสะอาดในการอาบน้ำให้ลูกน้อย ควรลดการใช้สบู่ให้น้อยลง เพื่อป้องกันผิวแห้ง เพราะก้อนสบู่ที่สัมผัสกับผิวเด็กโดยตรงจะทำ ให้ผิวทารกแห้งง่ายขึ้นกว่าปกติ ทั้งนี้หากใช้แล้วลูกน้อยมีผื่นขึ้น ให้ล้างฟองออกด้วยน้ำสะอาด แล้วหยุดใช้ และหากอาการยังไม่ดีขึ้นให้พาไปพบแพทย์โดยด่วน
• ครีมบำรุงผิว เลือกให้เหมาะใช้ให้ถูกเวลา ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวทารกได้ดี คือ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ในรูปแบบต่างๆ อาทิ เช่น โลชั่นออยล์ ครีม หรือปิโตเลียมเจล เป็นต้น หากลูกน้อยของคุณมีผิวแห้ง คุณแม่ควรเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์แบบเข้มข้นใช้หลังอาบน้ำไม่เกิน 3-5 นาที เพราะจะช่วยให้ซึมซับได้ดี ส่วนโลชั่นเหมาะกับสภาพผิวปกติทั่วไป ส่วนมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ปิโตเลียมเจล เหมาะสำหรับการใช้เฉพาะจุด เช่น มือ ขา ข้อศอก บริเวณก้นของลูกน้อย ที่จะช่วยป้องกันการเปียกชื้นได้ดี ทั้งนี้หากอากาศร้อนชื้น คุณแม่ไม่ควรใช้ออยล์ในการทาผิวให้ลูกน้อย เพราะออยล์จะปิดรูขุมขนบนผิวหนังทำ ให้เหงื่อไม่สามารถระบายออกมาได้ จนก่อให้เกิดผื่นคัน เหนอะหนะ แน่นอนว่าลูกน้อยจะรู้สึกรำ คาญอย่างมาก
• แชมพูสระผมปราศจากสารระคายเคือง การเลือกให้เหมาะกับทารกแรกเกิด เบื้องต้นแนะนำ ว่า…คุณแม่อาจจะยังไม่จำ เป็นต้องใช้ก็ได้ค่ะ ใช้เพียงน้ำต้มสุก (ที่อุณหภูมิเย็นปกติแล้ว) ทำความสะอาดก็พอ แต่หากคุณแม่ยังต้องการใช้แชมพูกับลูกน้อย ควรเลือกแชมพูที่มีความอ่อนโยน ปราศจากสารเคมี เช่น น้ำหอม สารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับหนังศีรษะของลูกน้อยจะดีที่สุด
• อาบน้ำเพิ่มความชุ่มชื่น ด้วยสภาพอากาศบ้านเราค่อนข้างร้อน คุณแม่ควรอาบน้ำทำ ความสะอาดร่างกายให้ลูกน้อยช่วงเช้า(สาย 10 โมง) หรือช่วงเย็น(บ่าย 3 โมง) ก็พอ หรือในช่วงอากาศหนาวหากคุณแม่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื่น ให้ลูกตอนอาบน้ำก็สามารถทำ ได้ โดยการหยดออยล์ลงไปในน้ำด้วย เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อยแล้วค่ะ
• หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ผิวเกิดความเสียหาย เชื่อว่าคุณแม่ทุกท่านน่าจะทราบดี อย่างกรณีเล็บของลูกน้อยไปขูดข่วนแขน ขา ใบหน้า หรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งคุณแม่สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ ด้วยการหมั่นสำ รวจเล็บของลูกน้อย หากเห็นว่าเล็บยาวก็ให้ตัดสั้นเป็นประจำค่ะ
• สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย คุณแม่ต้องพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกน้อยอยู่ในสภาพอากาศที่หนาวจัด ร้อนจัด หรือสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบ่อยๆ ซึ่งก็ต้องใส่ใจด้วยว่าสภาพอากาศแบบไหนส่งผลกับผิวลูกน้อยอย่างไรด้วย หากเห็นว่าสภาพอากาศร้อนทำ ให้ลูกเกิดผดผื่นคัน ก็ต้องอาบน้ำทำ ความสะอาดผิวให้สะอาด ดูแลไม่ให้ลูกเกิดการเปียกอับชื้นจากปัสสาวะ หรืออุจจาระ (ต้องหมั่นเปลี่ยนผ้าอ้อม และทำ ความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้น บริเวณผิวก้นให้ลูกระหว่างวัน)
จะเห็นได้ว่าทุกส่วนร่างกายของลูกน้อยนั้นมีความสำคัญมาก ดังนั้นพ่อแม่ควรใส่ใจในทุกรายละเอียดของลูกน้อย
-
หากจะแบ่งช่วงอายุของเด็ก อาจแบ่งได้เป็น เด็กแรกเกิด – 3 ปี, 4 – 8 ปี, 9 -14 ปี และ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งโดยแต่ละวัยนั้น ก็จะมีพัฒนาการและการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็กที่ผู้ปกครองควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรก นั่นก็คือ เรื่องของความปลอดภัย
เฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็กโดยส่วนใหญ่นิยมนำวัสดุที่เป็นไม้มาผลิต ข้อควรระมัดระวังเป็นอันดับแรก คือเรื่องของมุมต่างๆของสินค้า โดยผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่ดีนั้น ในส่วนของมุมต้องโค้งมน ไม่เป็นเหลี่ยม รวมถึงบานพับประตูควรใช้แบบธรรมดา ไม่มีสปริง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายจากการดีด รวมถึงความแข็งแรงของวัสดุต่างๆ เนื่องจากช่วงอายุของเด็กเล็ก มักจะไม่อยู่นิ่ง ดังนั้นควรตรวจเช็คความแข็งแรงของเฟอร์นิเจอร์เพื่อรองรับการเรียนรู้ของลูกน้อยในอนาคต ในส่วนของขนาด ควรเลือกให้เหมาะสมกับช่วงอายุรวมถึงน้ำหนักของเด็ก เนื่องจากพัฒนาการทางร่างกายของเด็กมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นเฟอร์นิเจอร์ที่ดีความปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการเติบโตของลูกน้อย หรือ เจาะจงช่วงอายุของผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับวัย เรื่องของโทนสีก็มีผลต่อการเรียนของลูกน้อยเช่นกัน การใช้สีโทนอ่อนจะเป็นทางเลือกที่ดี สามารถใช้ได้ในระยะยาว สีห้องนอนของเด็กผู้ชายควรจะเป็นโทนสีฟ้าอ่อน หรือสีเหลือง หากเป็นเด็กผู้หญิงก็มักจะใช้สีเขียวอ่อน หรือสีชมพู ของเล่นสำหรับเด็กเล็กถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่ช่วยให้เด็ก มีพัฒนาการทางด้านร่างกายและสมองที่ดีขึ้น ควรเลือกให้เหมาะสมกับวัย และมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆอยู่สม่ำเสมอ
เฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็ก ที่มีดีไซน์สวยงาม มีความปลอดภัย ใช้ได้หลายประโยชน์ เช่นชุดโต๊ะกิจกรรมและเก้าอี้ สำหรับคุณหนูๆ ได้ทำกิจกรรมต่างๆ ทั้ง งานปั้น วาดรูป หรือจะใช้เป็นโต๊ะทานข้าวแบบโต๊ะญี่ปุ่นก็ได้นะคะ
เคล็ดลับในการเลือกเฟอร์นิเจอร์ในแต่ละส่วนค่ะ
ส่วนห้องนอน
เตียงเด็กควรจะจัดเข้ามุมเพื่อให้มีพื้นที่ว่างเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ผนังห้องยังช่วยห้องกันไม่ให้เด็กตกเตียง ขณะที่เด็ก ยัง เล็ก ควรจัดให้นอน รวมกันเพื่อให้เด็ก ๆ มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันส่วนเด็กเล่น
เด็ก เป็นวัยที่ต้องการเล่นสนุกสนาน ส่วนที่จัดไว้ให้เด็กเล่นทั้งกลางแจ้งและในบ้านจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ภายในห้องเด็กควรกันส่วนหนึ่งไว้เป็นที่เล่น สำหรับพัฒนาการทางกาย และสมองของเด็กส่วนทำงาน
ความต้องการในส่วนนี้เหมาะสำหรับเด็กที่เข้าสู่วัยเรียน เด็กต้องใช้โต๊ะสำหรับทำการบ้าน การฝีมือ เขียนภาพระบายสี ฯลฯ อาจทำเป็นโต๊ะที่พับเก็บได้โดยพับติดฝาผนัง ติดชั้น โต๊ะมีล้อเลื่อนเก็บเข้าใต้เตียง หรือพับเก็บเข้าตู้เก็บของได้ส่วนเก็บของ
ใช้เก็บสิ่งของจำพวกเสื้อผ้า หนังสือและของเล่น จัดไว้ตามที่ที่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ เช่น ตามมุมห้อง ที่ว่างหลังประตู ฯลฯ โดยทำเป็น ชั้นสูง เลือกเก็บของที่หยิบใช้บ่อย ๆ ไว้ในชั้นที่เด็กหยิบถึง ชั้นเก็บของเด็ก อาจใช้ไม้ทำเป็นกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส เปิดด้านหนึ่ง ทาสีสดใสและมีตัวอักษรติดอยู่ เด็กสามารถใช้เรียงตัวอักษรเล่น หรือ ต่อเป็นโต๊ะได้ เมื่อเลิกใช้แล้ว ก็นำขึ้นวาง ซ้อนกันเป็น ชั้นเก็บของ -
เทคนิคการขายสินค้า และการบริการโดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านจำเป็นต้องไปพบลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเจรจาต่อรอง หรือการขายสินค้า โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน งานขายเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะนักขายอ การเตรียมตัวก่อนการขายนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นทางเราจึงได้เตรียมเทคนิคดี ๆ ดังนี้
การแสวงหารายชื่อลูกค้าในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาว่าลูกค้ารายนี้มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อสินค้ามากน้อยเพียงใด และเป็นการหาคำตอบว่าลูกค้าต้องการอะไร สินค้าประเภทไหน การเตรียมตัวก่อนเข้าพบ ก็คือตัวเราเองต้องมีจิตใจมุ่งมั่น พร้อบรับสถานการณ์ได้ทุกรูปแบบ และข้อมูลลูกค้าเบื้องต้น อีกทั้งยังต้องแต่งกายสุภาพ เรียบร้อย ซึ่งจะช่วยให้ลดข้อผิดพลาดให้น้อยที่สุด และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า
การเข้าพบ เป็นขั้นตอนที่สำคัญเป็นอย่างมาก ที่จะกระตุ้นหรือจูงใจลูกค้าเกิดความสนใจและประทับใจ โดยมีทางเลือกในการเข้าพบหลายวิธีดังนี้
– การเข้าพบด้วยการแนะนำตัวเอง
– การเข้าพบโดยอ้างถึงบุคคล
– การเข้าพบโดยการยกย่อง
– การเข้าพบโดยใช้สินค้านำเสนอ
-การเข้าพบโดยให้ของตอบแทนการเข้าพบแต่ละส่วนนั้นก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หรือความเหมาะสม แต่โดยวัฒนธรรมไทยแล้วการเข้าพบโดยการอ้างถึงบุคคลมักจะได้รับการต้อนรับจากลูกค้า และเป็นการสร้างความน่าเชื่อถืออีกด้วย
การนำเสนอขายสินค้าให้ประสบผลสำเร็จจะต้องยึดหลักสำคัญ 4 ประการดังนี้
– สร้างความมั่นใจโดยการรับประกันคุณภาพสินค้าหรือการเยี่ยมชมโรงงาน
– สร้างความชัดเจนและเข้าใจง่ายโดยการสาธิต หรือให้ลูกค้าทดสอบการใช้งาน
– สร้างความสมบูรณ์ โดยการให้ข้อมูลสินค้ามาสร้างเป็นคำพูดในลักษณะจำง่าย
– สร้างความเปรียบเทียบ โดยเสนอจุดเด่นที่คู่แข่งของเราไม่มี เปรียบเทียบให้เห็นสิ่งที่แตกต่างกัน
ตอบโต้ต่อข้อขัดแย้ง นั้นคือ การขจัดปัญหาหรือความคิดเห็นที่แตกต่างกันระหว่างเรากับลูกค้า และแก้ไขสถานการณ์ได้ตลอดเวลา ด้วยท่าทีมั่นคง ยิ้นแย้ม แจ่มใส และบางครั้งก็ต้องยอมรับและเห็นด้วยกับข้อขัดแย้งบางเรื่องการปิดการขาย ก็เป็นส่วนที่ช่วยให้ลูกค้ามีปฎิกิริยาตอบสนอง ว่าลูกค้าตกลงใจอย่างไร ซึ่งมีด้วยกันหลายวิธี
– การให้ของแถมตามที่ระบุในข้อตกลง
– การเสนอทางเลือกให้ตัดสินใจโดยให้ความแตกต่างของสินค้า
– การให้โอกาสสุดท้ายเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจเร็วขึ้น
– เปิดโอกาสให้ลูกค้าเป็นคนเลือกลักษณะของสินค้าตามความต้องการ เช่น การเลือกสี การเลือกวัน ลงสินค้า เป็นต้น